jojho

วิธีบริหารขาก่อนเข้านอน

ใครที่รู้ตัวว่า ขาใหญ่ แล้วอยากจะลดความใหญ่ของขาลงล่ะก็ มาดูวิธี บริหารขากัน เพียงแค่ใช้เวลาเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะเข้านอน ทำทุกวันรับรองสาวๆ จะได้มีเรียวขาที่เพรียวงาม วิธีบริหารขาก่อนเข้านอน มีดังต่อไปนี้  1. นอนหงายกับพื้น หาหมอนรองก้นไว้กันเจ็บ  2. ยกขาทั้งสองขึ้น เหยียดให้ตรง ค้างไว้ 2 นาที  3. ยังยกขาอยู่ แยกขาออกจากกัน แล้วหุบขาชิด ทำไปมา 20 ครั้ง  4. ปั่นจักรยานกลางอากาศสัก 100 ครั้ง  5. เปลี่ยนท่า นั่งกับพื้น เหยียดขา จากนั้นตีขาไปมากับพื้น 100 ครั้ง  

10 วิธีทำให้นอนหลับสบาย

การนอนหลับถือเป็นกิจกรรมที่สำหรับของเรา เราใช้ชวิตครึ่งหนึ่งด้วยการนอนหลับใครๆ ก็รู้ว่าการนอนหลับช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเราลองมาใช้ชีวิตเปลี่ยนแนว เพื่อการนอนหลับที่เป็นสุขและหมดทุกข์เรื่องเครียดกังวล กับ 10 คำแนะนำเหล่านี้กันนะครับ 1. เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม และตื่น 6 โมงเช้า เพราะนี่คือช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการพักผ่อนร่างกาย 2. สะสาง วางแผนสิ่งที่กังวลที่จะทำในวันต่อไปให้เรียบร้อยเพื่อลดอาการวิตกจริต และคิดซ้ำซาก 3. บอกกับตัวเองว่าการเครียดกังวล และใช้สมองในช่วงที่ต้องนอนหลับนั้นเปล่าประโยชน์ เนื่องจากสติ สัมปชัญญะ และความอ่อนล้าของร่างกายคืออุปสรรค ดังนั้น นอนหลับให้สนิทแล้วตื่นมาคิดอย่างแจ่มใส ย่อมให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า 4. ถ้าคุณนอนหลับยาก ควรออกกำลังกายในช่วงเย็น หรือ 4-6 ชั่วโมงก่อนนอน แต่อย่าทำใกล้เวลานอน 5. ปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นระหว่าง 17-25 องศาเซลเซียส แล้วจะหลับง่ายสบายบอดี้ 6. เสริมเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่สมดุล จะนอนหลับลึกได้ต่อเนื่อง 7. ความมืดมิดและไร้เสียง คือเคล็ดลับที่จะทำให้หลับได้สนิทและยาวนาน 8. ดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีองค์ประกอบของกรดอะมิโน Tryptophan จากโปรตีน อย่างธัญพืช หรือเครื่องดื่ม Whole Grains ก่อนนอน จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยสาร Niacin จากวิตามินบี 5 ทำให้สมองและร่างกายผ่อนคลาย และง่วงนอนง่ายขึ้น 9. สร้างกิจวัตรใหม่ด้วยการเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน ลองทำแค่ […]

มนุษย์คอมพิวเตอร์อย่างชะล่าใจ! 8วิธีรักษาสายตาที่คุณห้ามพลาด

ทุกวันนี้เราแทบจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่ว่าจะทำงานอะไร คอมพิวเตอร์ถือเป็นอุปกรณ์ที่ถือว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของการทำงานเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะทำงาน เล่น พักผ่อน ใช้ชีวิต คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทสำคัญที่ทำให้หลายๆอย่างง่ายขึ้นมาก บางคนต้องทำงาน จ้องหน้าคอมไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งถือว่านานมาก แต่ก็หาทางเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน เพราะถ้าไม่ใช้ งานก็ไม่เดิน หารู้ไหมว่า สายตาของเรานั้นถูกทำร้ายอย่างไม่รู้ตัว บางคนสายตาสั้นลง บางคนปวดตา บางคนปวดหัว ก็มาจากสาเหตุเพราะจอคอมพิวเตอร์นี่แหละ สิ่งที่จำเป็นที่สุดของมนุษย์หน้าคอมฯที่ต้องทำเพื่อรักษาสายตาเรานั้น หลักๆคือ "ลดความจ้าของแสง" และ "ขยายตัวหนังสือให้ใหญ่ขึ้น" เพื่อลดการเพ่งของสายตา ให้ทำงานหนักน้อยลง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้อายุเยอะหรือมีปัญหาเรื่องสายตาเสียก่อนถึงจะทำ 8 วิธีต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่อยากให้มนุษย์หน้าคอมฯนำไปปฏิตามเป็นอย่างมาก เพราะในเมื่อการจะให้ใช้เวลากับคอมน้อยลง คงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้คือการชะลอการทำร้ายสายตาให้ช้าลง ทำให้สายตาเรารู้สึกสบายมากขึ้นเมื่อจ้องหน้าจอ และที่สำคัญ มันง่ายที่เราจะปฏิบัติตาม… 1. แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ หน้าจอคือต้นตอของปัญหาทำให้เกิดปัญหาของสายตา ดังนั้นการปรับความสว่างและความเข้มของหน้าจอจึงเป็นใจความหลักของการแก้ปัญหา โดยส่วนใหญ่แล้วนั้น หน้าจอเราจะมีวิธีการปรับค่าความสว่าง ความเข้ม และสีให้อยู่ในระดับพอดีและรักษาสายตาไว้อยู่แล้ว หากไม่มี กูเกิ้ลเป็นที่พึ่งของมวลมนุษยชาติตามเคย แต่หลักๆแล้วนั้นการปรับให้แสงของหน้าจออยู่ในระดับที่ไม่อ่อน ไม่จ้า และไม่ฉูดฉาดจนเกินไป จะช่วยรักษาสายตาได้ดี 2. ลงทุนสักนิด ปัจจุบันมีแว่นตาที่ผลิตมาเพื่อกรองแสงจากหน้าจอโดยเฉพาะ […]

อาหารป้องกันไข้หวัด

เว็บไซต์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ได้นำเสนออาหารง่ายๆ ที่ช่วยป้องกันและรักษาโรคหวัด ในเครดิตและข้อมูลว่าผ่านการวิจัยจากทีมแพทย์ของมหาวิทยาลัยดังๆ มาแล้วทั้งนั้น น้ำมะนาว คือ สุดยอดเครื่องดื่มที่สามารถลดอาการเจ็บคอและเสมหะในลำคอได้เป็นอย่างดี ใช้น้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น และใส่น้ำเชื่อมเล็กน้อย สามารถช่วยลดอาการเจ็บคอ และละลายเสมหะได้ดีเยี่ยม และยังมีวิตามินซี ที่ช่วยป้องกันโรคหวัดได้อีกด้วย น้ำขิง จะช่วยฆ่าเชื้อโรคเชื้อไวรัสต่างๆ ที่ทำให้เกิดโรคหวัดและไข้หวัดในร่างกายเราได้ และเป็นยาแก้ปวดท้องได้อีกด้วย เราสามารถใช้ขิงสด 2 หัว นำมาต้มกับน้ำ 500 ซีซ๊. ต้มประมาณ 15 นาที ก็สามารถนำน้ำขิงมารับประทานได้เลย การใส่ขิงลงไปในอ่างอาบน้ำ ไอน้ำที่ผสมน้ำขิงนั้น จะช่วยกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองของร่างกายให้ทำงานได้ดี กระเทียม กระเทียมมีคุณสมบัติช่วยป้องกันและรักษาเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ นักวิจัยในอังกฤษพบว่ากระเทียมสามารถช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการโรคหวัดได้ดียิ่งขึ้น น้ำมันละหุ่ง  ไอระเหยจากน้ำมันละหุ่งที่อยู่บนหน้าอกของเราขณะนอนหลับ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ช่วยกระตุ้นให้ปอดของเราทำงานดีขึ้น การใช้น้ำมันละหุ่งนวดเบาๆ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัวและวางบนหน้าอก จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ส้มและผลไม้ต่างๆ  การวิจัยพบว่า การดื่มน้ำส้มคั้นสดๆ ทุกวัน ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคหวัดและไข้หวัดได้มากกว่า 25% และการได้รับวิตามินซี 1,000 มก. ทุก 6 ชั่วโมงช่วยรักษาอาการโรคหวัดและไข้หวัดได้เป็นอย่างดี   ที่มา: […]

เตือนภัยการใช้หูฟัง

หูฟัง คืออุปกรณ์ที่ใช้ต่อเชื่อมระหว่างเครื่องบันทึกเสียงชนิดต่างๆ มาสู่หูของผู้ที่ต้องการฟังเสียง ซึ่งส่วนใหญ่คือเสียงเพลง โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ ป้องกันไม่ให้เสียงเพลงไปรบกวนผู้อื่นที่อยู่ในรัศมีของเสียง แต่ผู้ใช้ในปัจจุบันนี้ต่างใช้งานด้วยวัตถุประสงค์ที่สวนทาง กล่าวคือ มักจะใช้เพื่อป้องกันไม่ให้มีเสียงอื่นๆจากภายนอก เข้ามารบกวนการฟังเพลงของตนเองมากกว่า หูฟัง ได้รับความนิยมแพร่หลายมากในยุคเดียวกันกับเครื่องบันทึกเสียงแบบพกพา หรือซาวนด์อะเบาท์ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในยุคที่โด่งดังของเครื่องบันทึกเสียงและได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคของเครื่องบันทึกเสียงขนาดเล็กแบบดิจิตอล จากยุคนั้นมาจนถึงยุคของโทรศัพท์เคลื่อนที่ครองโลก หูฟังจึงแทบจะกลายเป็นอวัยวะเพิ่มเสริมจากอวัยวะปกติของคนทั่วไป เพราะไม่ว่าจะนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์, ระหว่างการเดินทางด้วยพาหนะในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการเดินเท้าบนท้องถนน หรือแม้แต่ขณะที่ออกกำลังกายอยู่ก็จะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า "หูฟัง" เสียบจุกติดรูหูอยู่ตลอดเวลา ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะบอกว่าเป็นการทำให้เพลิดเพลินและคลายเครียดได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็มีคำเตือนออกมาตลอดเวลาถึงอันตรายจากการใช้หูฟัง เช่น การที่ใช้หูฟังและเปิดเสียงที่ดังเกินกว่าหูปกติจะรับได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้ประสาทหูเสื่อม จนถึงขั้นทำให้เกิดอาการหูตึงขึ้นมาได้ การใช้หูฟังจึงไม่ควรเปิดเสียงดังเกินไป และเมื่อใช้ไปช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว ก็ต้องถอดหูฟังออกเพื่อพักประสาทหูเอาไว้บ้าง แต่อันตรายที่แท้จริงของการเสียบหูฟังติดเอาไว้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่ออยู่นอกสถานที่ส่วนตัวก็คือ การเสียสมาธิหรือทำให้ประสาทสัมผัสติดอยู่กับหูฟัง จนไม่สามารถรับรู้ว่ามีอันตรายหรือมีคนร้าย กำลังจ้องหาจังหวะเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์หรือร่างกายอยู่ในละแวกใกล้เคียง เพราะเสียงที่ได้รับจากหูฟังทำให้สัญชาตญาณระวังภัย ซึ่งมีอยู่ในทุกตัวคนหมดประสิทธิภาพลงไป ดังที่เคยเกิดขึ้นและเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง ส่วนอันตรายอีกรูปแบบหนึ่งที่มีผลมาจากการใช้หูฟังอย่างไม่ถูกต้อง คือ อันตรายที่เกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นบนถนนหรือบนทางเท้า เพราะคนที่เสียบหูฟังอยู่จะไม่ได้ยินเสียงแตรรถหรือเสียงคนตะโกนเตือน รวมทั้งอาจจะเพลิดเพลินกับสิ่งที่รับฟังจนเหม่อลอยเดินลงไปในเขตพื้นที่อันตราย หูฟังในปัจจุบันนี้มีประสิทธิภาพดีมาก ทั้งในด้านของประสิทธิภาพการกระจายเสียง และมีขีดความสามารถในการป้องกันไม่ให้เสียงจากภายนอกเข้ามารบกวนการฟังได้ดี แต่คนที่ใช้หูฟัง ไม่ว่าจะเพื่อความเพลิดเพลินหรือเพื่อความบันเทิงอื่นใด ก็ควรศึกษาวิธีการใช้หูฟังที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยแก่ประสาทหู และแก่ร่างกาย รวมทั้งทรัพย์สินของตัวเองด้วย   […]

รู้จักการแก้ปัญหา เมื่อจิตใจสงบ

ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ความเครียดในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ยังช่วยให้คนเราเกิดความกระตือรือร้นในการดำเนินชีวิตอีกด้วย แต่หากความเครียดที่มากจนเกินไปรวมถึงความเครียดที่สะสมไว้เป็นเวลานาน ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจของคนเราได้เช่นกัน การพูดคุยเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยระบายความเครียดที่ทำได้ง่ายและยังนำไปสู่ความเข้าใจถึงสาเหตุ และอาจช่วยให้มองเห็นแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถคลายเครียดได้ด้วยการออกกำลังกาย วาดรูป เล่นดนตรี ทำสมาธิ สวดมนต์ รวมถึงการอาบน้ำและพักผ่อนให้สบายก็จะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้น ความเครียดที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่สามารถผ่อนคลายได้ หากเราไม่มัวคิดวกวนถึงปัญหาที่เราประสบอยู่แต่ให้หาหนทางระบายออก เพื่อลดความกังวลที่เกิดขึ้น จากนั้นค่อยหาทางออกเมื่อจิตใจสงบลง แล้วเราจะมองเห็นทางแก้ไขปัญหาด้วยสติปัญญาของตัวเรา     ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด โดยนฤภัค ฤธาทิพย์ กรมสุขภาพจิต

ขับขี่ไม่ใส่หมวกกันน๊อคอันตราย 9.5 เท่า

ผู้ใช้รถจักรยาน 2 ล้อและมอเตอร์ไซค์ คงจะระวังตัวขึ้นมาบ้าง ถ้าหากจะทราบว่าหากเกิดอุบัติเหตุ ผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยจะได้รับอันตรายหนักและรุนแรงกว่าผู้สวมหมวกถึง 9.5 เท่า คณะวิจัยความปลอดภัยบนท้องถนน และสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยโมนาชของอังกฤษ ได้ศึกษาเปรียบเทียบอันตรายของการเกิดอุบัติเหตุ ระหว่างผู้ที่ใช้หมวกกันน็อกกับศีรษะเปล่า พบว่าผู้ที่ไม่ใช้หมวกจะได้รับอันตรายหนักกว่า 9.5 เท่า ทั้งยังจะได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ กะโหลก และสมองรุนแรงกว่ากันมาก “การค้นพบของเรายืนยันว่าการใช้หมวกที่ได้รับมาตรฐาน จะช่วยป้องกันอันตราย ไม่ว่าจะล้มในท่าไหนได้ดีกว่า” ดร.แอนดรูว์ แมคอินทอช ผู้ทดสอบ กล่าวว่า “เราพบว่าหมวกจะช่วยป้องกันไม่ให้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากการชนอย่างแรงจนถึงแรงที่สุด เทียบได้เท่ากับการตกจากที่สูง 1.5 เมตร ด้วยความเร็วชั่วโมงละ 25 กม.”     ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  

ทราบหรือไม่? ยิ่งดื่มน้ำเย็น…ยิ่งร้อน

เวลาอากาศร้อนทีไร เรามักรู้สึกกระหายน้ำมากกว่าปกติ ยิ่งถ้าออกไปเผชิญกับแสงแดดอันร้อนแรงด้วยแล้วล่ะก็ เป็นต้องถามหาน้ำดื่มเย็นๆ กันทันที น้ำเย็นช่วยดับความร้อนและกระหายได้ แต่รู้มั้ยคะว่า ถ้าเราดื่มน้ำเย็นจัดๆ ทันที อาจจะส่งผลเสียกับร่างกายเราได้ เช่นกัน ภญ. วรีวรรณ รัตรสาร แพทย์แผนไทยด้านเวชกรรมไทย กล่าวว่ามนุษย์เป็นสัตว์เลือดอุ่น หากดื่มน้ำเย็นเข้าไปร่างกายจะปรับอุณหภูมิความร้อนขึ้นมา ยิ่งน้ำเย็นมากเท่าไหร่ร่างกายก็จะปรับอุณหภูมิขึ้นมากจนอาจเกิดอาการร้อนใน และทำให้ป่วยได้โดยไม่รู้ตัว หากไม่อยากป่วยก็เปลี่ยนมาดื่มน้ำอุณหภูมิห้องจะดีกว่า หากใครชอบกินของเย็นๆ อย่างน้ำแข็งไส หรือไอศกรีมก็ควรดื่มน้ำอุ่นๆ ตามด้วย       ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน  

เรียนรู้อยู่กับแดดให้เป็นประโยชน์

เดี๋ยวนี้มีแดดที่ไหนใครๆทั้งคุณผู้หญิงคุณผู้ชาย ก็เป็นต้องร้องโอดโอยที่นั้น ก็แสงแดดสมัยนี่น่ะมันร้อนแรงซะเหลือเกิ๊น รับเข้าผิวมากๆมีอันต้องเป็นมะเร็งผิวหนังอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ทว่าในความร้ายกาจนี้ยังมีข้อดีอยู่บ้างนะ เพราะร่างกายของคนเรายังต้องการรังสียูวีบีในแสงแดดเพื่อสร้างวิตามินดีให้แก่ร่างกาย แล้วยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน เบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้ ดังนั้นลองลุกจากที่นอนออกมารับแสงอรุณกันในช่วงเช้า ประมาณ 13 นาที ดูบ้าง ทำทุกวันร่างกายก็แข็งแรงได้ด้วยล่ะ   ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก  

1 8 9 10 11 12 14