โรคข้ออักเสบ

ทานปลามีประโยชน์ช่วยป้องกัยโรคข้ออักเสบ

การรับประทานปลาเป็นประจำ จะสามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะการทานปลามันๆ จะสามารถช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบได้อีกด้วย ส่วนปลาที่นำมารับประทาน ไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล เพียงแค่ทานปลาเป็นประจำอาทิตย์ละครั้ง จะช่วยลดการเกิดโรคข้ออักเสบ เนื่องจากการทานปลาเป็นประจำ ร่างกายของเรายังจะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่าง โอเมก้า-3 เพราะสามารถช่วยปกป้องหัวใจและสมองให้มีสุขภาพดีอีกด้วย และที่สำคัญการทานปลายังสามารถช่วยต้านทานการอักเสบ และช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบได้อีกด้วยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นแล้ว จึงมีวารสาร ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ โรคข้ออักเสบออกมาว่า การที่รับประทานปลาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่ทานปลาให้ได้อย่างน้อยอาทิตย์ละ1 ครั้ง ร่างกายจะได้รับการป้องกันโรคได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งสามารถช่วยได้มาก แต่ถ้าหากว่าทานปลามันๆเข้ามาในร่างกาย ภายในหนึ่งอาทิตย์ โดยการทานเนื้อปลา 4 วัน ร่างกายจะได้รับการป้องกันได้ประมาณกึ่งหนึ่งเลยเชียวล่ะค่ะ เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารที่มาจากเนื้อปลาเข้ามาช่วยดูแลสุขภาพร่างกาย การทานปลานอกจากจะดีต่อร่างกาย แต่ไม่ได้หมายความว่าการทานอาหารเสริมเข้ามาในร่างกายจะสามารถช่วยได้หรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันปลานำมารับประทานเป็นอาหารเสริม แต่เพื่อประสิทธิภาพที่ดีต่อร่างกายจากการทานปลานั้น จึงควรทานปลาสดๆ แล้วนำมาประกอบอาหารเพื่อร่างกายจะได้รับสารอาหารมาช่วยดูแลบำรุงร่างกายจากการทานปลา   ขอบคุณที่มา : http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/general_knowledge/16561/

ค่า ESR คืออะไร ค่า CRP คืออะไร และ ESR กับ CRP ต่างกันอย่างไร

ขอขอบคุณรูปประกอบจาก  healthtap.com | Picture Credit From : healthtap.com ผู้ป่วยเอเอสแบบเรา หรือ ผู้ป่วยโรคข้ออื่นๆ ในกลุ่มข้ออักเสบ Arthritis ในการไปพบแพทย์ทุกครั้งจะมีการตรวจเฃือดเพื่อดูอาการเป็นระยะไป และในการตรวจเลือดแต่ละครั้งจะมีศัะท์เฉพาะเช่น ตรวจค่า ESR ตรวจค่า CRP วันนี้ผมขอรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจ ESR และ CRP ค่า ESR คืออะไร ESR (Erythrocyte sedimentation rate) เมื่อมีการอักเสบในร่างกาย ตับจะเกิดปฏิกิริยาโดยการสร้างสารโปรตีนชนิดหนึ่งออกมาในเลือดมากขึ้น สารโปรตีนนี้จะมีผลทำให้เม็ดเลือดแดงเกิดการเกาะติดกันได้ง่าย หากเจาะเลือดของผู้ป่วยที่มีการอักเสบใส่หลอดที่มีสารป้องกันการแข็งตัว แล้วตั้งทิ้งไว้สักพัก ก็จะเห็นว่ามีการแยกชั้นของส่วนที่เป็นเลือดและส่วนที่เป็นน้ำเหลืองในเวลา ไม่นาน ทั้งนี้เพราะสารโปรตีนนี้จะทำให้เม็ดเลือดแดงเกิดเกาะติดกัน แล้วก็พากันไปตกตะกอนอยู่ที่ก้นหลอดนั่นเอง ค่าของ ESR ก็คือระยะทางเป็นมิลลิเมตรที่เม็ดเลือดแดงตกตะกอนลงมาอยู่ที่ก้นหลอดแก้วใน เวลา 1 ชั่วโมง ยิ่งค่าของ ESR สูงก็ยิ่งแสดงว่ามีการอักเสบมาก จากหลักการดังกล่าว ESR จึงใช้วัดสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในเลือด โดยเฉพาะ Plasma ซึ่งอาจจะมีสารบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทำให้เลือดตกตะกอนเร็วขึ้น […]