jojho

ที่มาของคอลั่มเล่าเรื่องประสบการณ์

ที่มาคือนับไปตั้งแต่สมัยบอร์ดนี้ยังใช้แบบบอร์ดฟรีอยู่ พี่ wuthichi ได้เขียนเป็นตอนต่างๆไว้ เกือบร้อยกว่าตอน แต่บอรดเก่าโดนลบไปแล้ว ก็เลยเหลือแค่ ตอนที่ 81 เป็นต้นไป ครับติดตามอ่านกันได้เรื่อยๆครับ

ยาแก้ปวด ‘ทามาดอล’ ใช้ผิดประเภทอันตรายถึงชีวิต

อย.เตือนยาแก้ปวด “ทามาดอล” คล้ายกลุ่มยาเสพติด ชี้พบการใช้ผิดประเภทบ่อย หากเด็กใช้อันตรายมาก เผยเคยพบรายงานเสียชีวิตในต่างประเทศ “อาการไม่พึงประสงค์ของยาดังกล่าว ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ เช่น จะทำให้กลืน หายใจลำบาก เห็นภาพคล้ายประสาทหลอน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เกิดอาการชักได้ เพราะยาจะมีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง โดยในต่างประเทศเคยพบรายงานผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาผิดประเภท โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้ม มักนำยาดังกล่าวไปใช้ร่วมกับยา หรือสารประเภทอื่นๆ หลายชนิดด้วยกัน โดยเฉพาะเด็กจะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้มากกว่า เนื่องจากยาโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความรุนแรงการใช้จะต้องกะประมาณให้พอดีกับ น้ำหนักตัวของผู้ใช้ ส่วนใหญ่ยาที่ใช้กับเด็กจะถูกลดปริมาณลงตามน้ำหนักตัว การนำยาไปใช้ให้เกิดผลในทางที่ผิด จึงอันตรายมากกว่า” ภก.ประพนธ์ อางตระกูล ผอ.กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าว ยาดังกล่าวแม้ว่าจะเป็นยากลุ่มอันตรายที่มีฤทธิ์แรง แต่ก็มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่ต้องใช้ยา ดังนั้น อย.จึงได้มีมาตรการควบคุมและติดตามการใช้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอความร่วมมือเภสัชกรให้เฝ้าระวัง และไม่ขายยาให้กับเด็ก หรือผู้ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยว่าจะนำยาไปใช้ผิดประเภทด้วย ทั้งนี้ การยกระดับการใช้ยาเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่ออกประกาศฉบับเดียวก็สามารถยกระดับยาได้แล้ว แต่การตัดสินใจยกระดับหรือไม่ ต้องคำนึงถึงผลกระทบของประชาชนโดยรวมทั้งประเทศ เพราะยาดังกล่าวถือเป็นยาจำเป็น และมีประโยชน์ต่อผู้ป่วย การทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้ง่าย จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา การจะควบคุมอย่างไรจึงต้องคำนึงถึงความสมดุลเป็นหลัก ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

งดขายทรามาดอลให้เด็ก กันเอาไปใช้เป็นยาเสพติด

 อย.จำกัดปริมาณขายทรามาดอล ห้ามขายเด็ก และต้องรายงานอย่างละเอียด กันปัญหาเอาไปใช้เป็นยาเสพติด                นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวภายหลังการประชุมเพื่อแก้ปัญหาการใช้ยาทรามาดอลผิดวัตถุประสงค์ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สภาเภสัชกรรม สมาคมเภสัชกรรมชุมชน สมาคมร้านขายยา ชมรมร้านขายยาแห่งประเทศไทย และผู้รับอนุญาต ผลิต นำเข้า เพื่อกำหนดมาตรการแนวทางในการปฏิบัติสำหรับผู้รับอนุญาต และเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ในการควบคุมยาที่มีความเสี่ยงสูง ว่า จากการทบทวนปริมาณการใช้ยาดังกล่าวพบว่ามีปริมาณการใช้ที่เพิ่มขึ้น จากปี 2553 มีการผลิตและนำเข้าอยู่ที่ 207 ล้านเม็ด เป็นปี 2554 มีปริมาณการผลิตและนำเข้า 231 ล้านเม็ด ซึ่งยาดังกล่าวถือเป็นยาจำเป็นที่ต้องใช้ในผู้ป่วยกลุ่มที่มีอาการปวดจากโรค ที่ไม่สามารถใช้ยาแก้ปวดตามปกติได้ การจำกัดการใช้ยาถือเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ในขั้นต้นที่ประชุมได้ข้อสรุป ว่า จะมีมาตรการควบคุมโดย จำกัดปริมาณการจำหน่าย จากผู้ผลิตไปยังร้านขายยาไม่เกิน 1,000 เม็ดต่อแห่งต่อเดือน และจำกัดการขายจากร้านขายยาไม่ควรจ่ายยาเกินครั้งละ 20 เม็ด และห้ามจำหน่ายยาทรามาดอลให้แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี หรือผู้ที่ไม่มีข้อบ่งใช้ทางการแพทย์ เพื่อป้องกันการนำยาดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นไป         […]

ประเภทของอาการปวดหลัง

"อาการปวดหลัง" มักเกิดจากการอักเสบของข้อต่อ กล้ามเนื้อ หรือหมอนรองกระดูกที่หลัง กิจกรรมการออกกำลังกายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยกของขึ้นลงซ้ำๆกันนานๆ การก้ม และบิดเอี้ยวจะทำให้อาการแย่ลง การวางท่าทางไม่ถูกยังสามารถทำให้เกิดอาการได้เช่นกัน ส่วนโรคปวดหลังที่พบได้น้อยมากอาจมีสาเหตุมาจากปัญหาที่ร้ายแรงเช่นการติดเชื้อหรือปัญหาทางการแพทย์อื่นๆ : ประเภทของอาการปวดหลัง : 1. อาการปวดหลังแบบเฉียบพลัน อาการปวดหลังที่แสดงอาการปวดติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน 6 สัปดาห์หรือน้อยกว่า แต่ไม่ได้ปวดร้าวลงไปตามแนวขาต่ำกว่าบริเวณเข่า เรียกว่า อาการปวดหลังแบบเฉียบพลัน กล้ามเนื้อเอวตึงเคล็ดหรือปวดหลัง ส่งผลให้เกิดอาการปวดทรมาน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมีอาการค่อยๆดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน หลังจากได้รับการรักษา 2. อาการปวดหลังร้าวลงขาแบบเฉียบพลัน อาการปวดร้าวลงขาแบบเฉียบพลัน เป็นอาการประเภทหนึ่งของโรคปวดหลังซึ่งจะแสดงอาการปวดติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน 6 สัปดาห์หรือน้อยกว่าและยังปวดร้าวลงไปยังบริเวณสะโพกและขาบริเวณต่ำกว่าเข่าอีกด้วย บางทีเรียกว่าโรครากประสาทหรือการปวดเสียวแปล๊บร้าวไปยังขา ระยะเวลาที่อาการจะทุเลาจะกินเวลานานกว่าอาการปวดหลังแบบเฉียบพลัน และการกระทบกระเทือนของเส้นประสาทบริเวณหลังมักเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดร้าวลงไปที่ขา 3. อาการปวดหลังและปวดร้าวลงขา แบบเรื้อรัง อาการปวดหลังและปวดร้าวลงขาที่ไม่ดีขึ้นและกินระยะเวลานานกว่า 6 สัปดาห์ จัดเป็นอาการในกลุ่มโรคเรื้อรัง การรักษาเฉพาะทางถือเป็นสิ่งจำเป็น แพทย์ประจำตัวของคุณอาจจะแนะนำคุณไปยังแพทย์ผู้ที่ชำนาญเฉพาะทางด้านโรคที่เป็นต้นเหตุของปัญหาปวดหลังเรื้อรัง อาทิเช่น แพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู แพทย์ด้านอาชีวเวชศาสตร์ ศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญการผ่าตัดกระดูกสันหลัง หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมด้านกระดูกและข้อ : สัญญาณเตือน : […]

ยาฉีดชีวภาพ remicade และ enbrel คืออะไร? มีผลข้างเคียงไหม?

เป็นข้อมูลการพูดคุยกันในแฟนเพจไทยเอเอสเห็นว่ามีประโยชน์มากๆเกี่ยวกับยาฉีดชีวภาพ ramicade และ enbrel ยา ฉีดชีวภาพคืออะไรค่ะ ใครเคยฉีดไหมค่ะ แล้วมีผลข้างเคียงไหม รบกวนผู้รู้บอกหน่อยนะค่ะ พยายามหาข้อมูลใน google แล้วแต่มีข้อมูลน้อยมากค่ะ สามารถเข้าไปคุยประเด็นนี้ต่อได้ที่ https://www.facebook.com/thaiasclub/posts/10152294904420364

เล่นกีฬาข้อเท้าพลิกปวดกล้ามเนื้อ ใช้เจลร้อนหรือเจลเย็นดี

คำตอบคือ ไม่ควรใช้ทั้งเจลร้อนและเจลเย็น เวลาออกกำัลังแล้วเกิดการบาดเจ็บ สิ่งที่ต้องทำคือการลดการอักเสบด้วยการใช้อุณหภูมิเย็นๆ น้ำเย็น หรือน้ำแข็งมาประคบ เพื่อลดการอักเสบ ลดเลือดที่จะไหล ลดเซลล์อักเสบที่จะมาตรงนั้น การไปนวดการบีบที่จุดที่บาดเจ็บ ตรงนั้นๆจะอักเสบมากขึ้น การใช้เจลมานวดที่บาดเจ็บ ก็จะทำให้อาการแย่ลง แล้วทำไมคนชอบทา ในยาเจลร้อน มักใส่สารกลุ่ม methyl salicylate ซึ่งจะทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง เกิดความรู้สึกร้อนที่ผิวหนัง ซึ่งความรู้สึกร้อนจากการระคายเคือง จะหลอกเส้นประสาทให้ส่งสัญญาณความเจ็บปวดจากการบาดเจ็บไปสมองลดลง สำหรับยาเจลเย็น ก็ใช้สารในกลุ่ม methyl salicylate เหมือนกัน แต่มีการผสมสารในกลุ่ม menthol ที่ทำให้เกิดความรู้สึกเย็นที่ผิวหนัง กลไกการแก้ปวดก็เหมือนกันคือหลอกเส้นประสาทที่ผิวหนังและทำให้การส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปสมองลดลง แล้วจะเอาเจลเย็นมาทาแทนการประคบเย็นได้หรือไม่ เจลเย็น ไม่ได้ลดอุณหภูมิ(เพราะเย็นจากการหลอกเส้นประสาท) แถมมี methyl salicylateซึ่งทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังมากขึ้น เสี่ยงต่อการอักเสบมากขึ้น ดังนั้นเมื่อบาดเจ็บ ไม่ควรนวด ไม่ควรทาเจลร้อนหรือเจลเย็น (ไม่ควรทา และไม่ควรนวด) เอาน้ำเย็นประคบดีต่อการบาดเจ็บกว่า ยกเว้นเจ็บมาก ทาได้เพื่อบรรเทาปวด แต่ชั่งน้ำหนักกับผลเสียที่อาจจะมี(เล็กน้อย) จากการที่เลือดมาเลี้ยงผิวหนังในจุดที่บาดเจ็บมากขึ้น แต่สำหรับกรณีปวดเมื่อยทั่วๆไป จะทา จะนวด จะแปะ ก็ทำได้ครับ ช่วยลดปวดได้ จะร้อนจะเย็น […]

10 วิธี ที่คุณทำร้ายกระดูกสันหลังของคุณเอง

กระดูกสันหลังมีความสำคัญต่อบุคลิกภาพ วันนี้เรามี 10 วิธีที่คุณอาจเคยทำและไม่รู้ว่ามันทำร้ายกระดูกสันหลังของคุณมาบอกกัน ลองดูนะคะ 1. การนั่งไขว่ห้าง จะทำให้น้ำหนักตัวลงที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง เป็นผลให้กระดูกคด 2. การนั่งหลังงอ หลังค่อม เช่น การอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ติดต่อกันนานๆ เป็นชั่วโมง จนทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง เกิดการคั่งของกรดแล็คติก มีอาการเมื่อยล้า ปวด และมีปัญหาเรื่องกระดูกผิดรูปตามมา 3. การนั่งกอดอก จะทำให้หลังช่วงบน สะบัก และหัวไหล่ถูกยืดยาวออก หลังช่วงบนค่อมและงุ้มไปด้านหน้า ทำให้กระดูกคอยื่นไปด้านหน้า มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงแขน อาจทำให้มืออ่อนแรงหรือชาได้ 4. การนั่งเบาะเก้าอี้ไม่เต็มก้น จะทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานหนัก เพราะเป็นฐานในการรับน้ำหนักตัว 5. การยืนพักขาลงน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว การยืนที่ถูกต้อง ควรลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยยืนให้ขากว้างเท่าสะโพก จึงจะทำให้เกิดความสมดุลของโครงสร้างร่างกาย 6. การยืนแอ่นพุง/หลังค่อม การยืนหลังตรง แขม่วท้องเล็กน้อยเพื่อเป็นการรักษาแนวกระดูกช่วงล่างไม่ให้แอ่น และทำให้ไม่ปวดหลัง 7. การใส่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง จะทำให้แนวกระดูกสันหลังช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลัง 8. การยกของหนักแบบไม่ย่อเข่า […]

Ankylosing Spondylitis การผ่าตัดแก้ไข ผ่าตัดกระดูกสันหลัง

เป็นรายการของเกาหลี เมื่อคืนมีสมาชิกในกลุ่มไลน์แชร์มาให้กันดู เลยคิดว่าคงมีประโยชน์เลยขอเอามาให้ดูกันครับเกี่ยวกับการผ่าตัดกระดูกสันหลังที่เป็นโรคเอเอส Ankylosing Spondylitis

สารอาหารลดเครียด

วิตามินบี ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการสร้างพลังงานจากสารอาหารให้กับสมองและระบบประสาทในขณะเครียด สมองต้องใช้พลังงานมากขึ้นทวีคูณ วิตามิน บี จึงถูกใช้หมดลงอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้สมองขาดพลังงานในการทำงาน ก่อให้เกิดความเครียดมากยิ่งขึ้น ในผู้ที่ขาดวิตามินบี ผู้อยู่ในภาวะเครียด จึงควรได้รับวิตามิน บี ปริมาณสูงเพียงพอเพื่อให้เปลี่ยนสารอาหารให้เป็นพลังงานแก่สมองได้ทันที อาหารที่มีวิตามินบีสูงได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ธัญพืช นม ไข่แดง ผักสีเขียว และถั่วชนิดต่างๆ น้ำมันปลา เป็นกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า-3 ซึ่งมีกรดไขมันจำเป็นอยู่ 2 ชนิดคือ EPA และ DHA มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โดยเฉพาะ DHA หากได้รับโอเมก้า-3 ไม่เพียงพอ จะทำให้มีอาหารซึมเศร้า ความจำและความสามารถในการเรียนรู้ลดลง ไอคิวต่ำ และอาจมีอาการทางจิต การวิจัยยังชี้ว่า โอเมก้า-3 สามารถลดความเครียดลงและทำให้อารมณ์เย็นลงได้ สำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงสมองเสริมความจำ เพื่อการทำงานของสมองและลดเครียด ควรได้รับน้ำมันปลาวันละ 1,000 มิลลิกรัม อาหารที่มีน้ำมันปลาสูง ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรลและปลาทู สารต้านอนุมูลอิสระ เป็นสารที่ป้องกันไม่ให้เกิดอนุมูลอิสระ ที่เป็นสารพิษต่อเซลล์ต่างๆ […]

ใช้โทรศัพท์มาก สุขภาพไม่แข็งแรง

นักวิทย์ฯ สหรัฐเผย ผู้ที่ใช้มือถือหนักอยู่ตลอดเวลา มีร่างกายที่ไม่แข็งแรงเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ใช้มือถือ เนื่องจากคนที่ใช้มากไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย นักวิทยาศาสตร์ คณะการศึกษาสาธารณสุขและบริการมนุษย์ ของมหาวิทยาลัยเคนส์ สเตทแห่งสหรัฐฯ พบว่าผู้ที่ตัวติดอยู่กับการใช้โทรศัพท์มือถือมาก จะด้อยความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกายลงไป พวกเขาเห็นว่า โทรศัพท์มือถือซึ่งมีขนาดเล็กพกพาได้ น่าจะส่งเสริมการออกกำลังให้ง่ายขึ้น แต่จากการศึกษากับนักศึกษามหาวิทยาลัย 300 กว่าคน กลับได้ผลว่า ผู้ที่ใช้หนักกลับไม่ค่อยได้ออกกำลัง ผู้ที่พูดโทรศัพท์มากถึงวันละ 14 ชม. จะแข็งแรงสู้ผู้ที่ใช้โดยเฉพาะวันละไม่เกิน 90 นาทีไม่ได้ นักวิจัยผู้หนึ่งกล่าวว่า อาจจะวัดจากการใช้โทรศัพท์ รู้ถึงความแข็งแรงสมบูรณ์ของเจ้าของได้ โดยเฉพาะการล่อแหลมกับโรค เนื่องจากการขาดการออกกำลังกายนั่นเอง     ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

1 6 7 8 9 10 14