jojho

ตอนที่่่ 100 การยืนทีดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

ประสบการณ์ของคุณ วุฒิชัย เจียมทวีวิบูลย์และจากหนังสือมวยพลังภายในไทเก๊กของเสี่ยว อานต้า แม้น ไม่ได้มีการสอนให้มีการเรียนรู้การยืนอย่างเป็นทางการ เราจะเคยชินการยืนตามสบายซึ่งบ้างครั้งตัวเอียง หัวเข่าบิดไม่ไปด้านหน้า โดยไม่รู้สึกตัว ทำให้มีการปวดเข่าปวดหลังได้ในอนาคต หากเรายืนได้ถูกต้องก็ช่วยให้น้ำหนักตัวไม่ผ่านลูกสะบ้ามากนัก โดยน้ำหนักจะลงผ่านกล้ามเนื้อสู่ข้อเท้าได้ดีขึ้นซึ่งสามารถไปใช้ในอิริยาบถ อื่นได้ด้วย เช่น การนั่งหรือขณะทำงาน ลองมาดูท่ายืนที่ถูกต้อง ““ยืน แยกเท้าซ้ายขวาหน้ากระดานระยะห่างระหว่างเท้าซ้ายกับเท้าขวา เท่ากับความกว้างของช่วงไหล่ ปลายเท้าปลายเท้าชี้ไปข้างหน้าร่างกายตั้งตรงตามธรรมชาตินั่นเองปล่อยสองแขน ทิ้งลงตามธรรมชาติเช่นนั้นเอง ตามองตรงไปยังเบื้องหน้า” ใน ทางปฏิบัติก็คือ การยืนให้ปลายเท้าทั้งสองเป็นเลข 1 ที่ขนานกันจากเดิมปรกติปลายเท้าถ่างออกเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและที่หัว เข่าให้ฝืนบิดเข้ามาแนวตรงไปข้างหน้าจากปรกติที่แบะออกไปด้านข้าง และนอกจากนี้ก็ย่อเข่าเล็กน้อย “หลักการสำคัญ 1.ขอให้ทำตามหลักสำคัญพื้นฐานดังต่อไปนี้ “คล่องว่างพลังยอด”-“ไอพลังจมศูนย์-“ก้นกบตั้งตรง-“ซ่อนอกยกหลัง” ในที่นี้ภายใต้หลักสำคัญหลายประการดังกล่าวจงทำให้ผ่อนคลายปล่อยวางทั่วร่าง ทำให้ได้ถึงขนาด “ยืนร่างตั้งตรงสงบสบาย” 2.ปล่อยสองแขนให้ทิ้งดิ่งลงไป ข้อต่อไหล่ต้องปล่อยคลายนิ้วมืองอเล็กน้อยตามธรรมชาติ เช่นนั้นเอง 3.จิตประสาทต้องตื่นตัวตามธรรมชาติเช่นนั้นเอง ใจต้องสงบอย่าได้ฟุ้งซ่านแม้แต่น้อย” “หลักสำคัญพื้นฐาน 1.คล่องว่างพลังยอด: พลังยอดนั้น ลักษณะศีรษะตั้งตรง วิญญาณแล่นถึงยอดศีรษะไม่อาจดูใช้แรงใช้แรงแล้วยอดศีรษะแข็งเลือดลมไม่สามารถไหลเวียน “ในทางปฏิบัติก็คือการจินตนาการให้มีเชือกผูกศีรษะแขวนไว้บนอากาศตลอดเวลา 2.: “ซ่อน อกยกหลัง: ซ่อนอกนั้นหดหน้าอกซ่อนไว้ภายในทำให้ไอพลังจมลงได้ถึงศูนย์กาย หากหน้าอกยืดออกแล้วไอพลังหนุนระหว่างทรวงอกข้างบนหนักข้างล่างเบา ง่ายที่สันเท้าจะลอยขึ้นมา ยกหลังนั้นไอพลังจะแนบแผ่นหลังสามารถซ่อนอกก็จะยกหลังได้เอง สามารถยกหลังก็อาจใช้แรงพุ่งจากกระดูกสันหลังไร้ผู้ใดจะมาต้านไว้ได้” 3.ก้นกบตั้งตรง […]

ตอนที่ 99 จะสวยไม่ใช่เรื่องยาก

จากหนังสือยืดเส้นสายคลายสารพัดโรค โดย มานพ ประภาษานนท์ นักกายภาพบำบัด สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน 2521 “การที่เราจะสวยด้วยท่าทางที่ดีนั้นก็ต้องระวังอิริยาบถหลานท่า” “วิธี ตรวจด้านหน้าให้ยืนหน้ากระจก (ที่เห็นได้เต็มตัว) หรือไม่ก็ให้เพื่อนช่วยดูให้ ตำแหน่งที่ต้องพิจารณาก็คือ ระดับหู ไหล่ สะโพก เข่า และข้อเท้า เวลาเรายืนตรงถ้าระดับเหล่านี้สองข้างอยู่ในแนวนอนที่ตรงกันก็แสดงว่ายืนสวย ไม่ได้ยืนเคอเอียง ไหล่ยก สะโพกยัก เข่าย่อ ข้อเท้าบิด ซึ่งท่าเหล่านี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นท่าที่ไม่ดีแน่ๆ แต่ก็ยังมีหลายคนยืนในท่าเหล่านี้เพราะความเคยชิน ซึ่งไม่นานก็จะมีอาการปวดตามมา” “โดยเฉพาะคอยื่นและพุงแอ่นจะพบได้ บ่อย”” ซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเพียงแต่ใช้เวลาสักหน่อย เช่น ถ้าพุงแอ่นมากก็ต้องพยายามออกกำลังกล้ามเนื้อหน้าท้องให้แข็งแรงมากขึ้น ท่า ยืนที่สวยงามสง่าเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ดูมีบุคลิกน่าเชื่อถือ และน่าชื่นชมแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพดีขึ้นด้วย เพราะการยืนตามแนวโครงสร้างของร่างกายที่ถูกต้อง “ “สรุปก็คือยืนพยายามให้ตรงที่สุด ไม่เอียงทางซ้ายและขวา และจำวิธียืนนั้นไว้เสมอ และทำเมื่อนึกได้บ่อยๆจะดีขึ้น

ตอนที่ 98 เที่ยวอบรมเพื่อสุขภาพ

วันก่อนผู้เขียนดูทีวีไทยพีบีเอส เป็นสารคดีของชาวเผ่าปาปัวนิวกินี ไปเที่ยวฝรั่งเศส  มีอาการเจ็บเข่าเรื้อรัง ได้เข้าการรักษาอันทันสมัยในรพ.. มีการถ่ายสแกนทั้งตัว ด้วยเครื่องเอ็ม อาร์ไอ มีผู้เชี่ยวชาญหลายด้านประชุมกันร่วมกันรักษา มีการฉีดยาเข้าไปในข้อเข่า ได้ข้อสรุปว่าเป็นข้อเข่าเสื่อม   เมื่อเสร็จขั้นตอน ชาวเผ่านั้นก็ยังคงเจ็บเข่าเหมือนเดิม        4/9/2553  ได้เข้าคอร์ส การทำถุงผ้าให้ผู้ป่วยของรายการใจเติมใจ ของป่าใหญ่ ครีเอชั่น และพุทธิกาที่ศุนย์วัฒนธรรม โดย การเขียนภาพที่ส่งความหมายดีๆให้ผู้ป่วยหายไวๆ ซึ่งจะถูกนำไปแขวนข้างเตียงผู้ป่วยที่รพ.เด็ก รพ.จุฬา โดยจะตัดผ้าขาวหรือส้มตามขนาดกระเป๋าใส่หนังสือไว้ ให้อาสา เขียน ปัก และจะมีพี่เย็บผ้าด้วยจักรขึ้นไปเป็นถุงอีกที ลองวาดรูปดอกทานตะวัน ดวงอาทิตย์ นก เมฆ ด้วยสีเทียนและฝึกการทำผ้าปักเป็นดวงอาทิตย์จากพี่ข้างๆ ซึ่งก็ได้ความรู้ว่าการทำงานศิลปะกับทำให้ผู้ทำรู้สึกเยียยาจิตใจของตัวเอง ให้ดีขึ้นได้เหมือนกัน เป็นสิ่งที่แปลกจริงๆ      บ่ายลองถามนาย แพทย์สกล สิงหะ เกี่ยวกับการให้กำลังใจแก่ผู้ป่วย โรคข้อกระดูกไขสันหลังอักเสบแบบติดยึดซึ่งมีน้อง 2 คนที่รู้จักทางอินเตอร์เน็ท ซื่ง คนเป็นโรคนี้ได้พักการเรียน หมอได้พูดถึงต้นทุนที่ดี อันได้จิตใจที่เสียสละ การ ปฏิบัติที่ดี การออกกำลังสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงแทนที่กระดูกทีเสียไป การพิจารณาความป่วยเป็นธรรมดาทุกๆคนย่อมมีความป่วยเป็นธรรมดา              เย็น การดูแล ผู้ป่วยระยะสุดท้าย หมอได้ กล่าวว่าการแพทย์ปัจจุบันไม่สามารถรักษาทุกโรคให้หายขาดในยุคแรกของการแพทย์ ก็รักษาได้ […]

ตอนที่ 97 คิดมากก็ทุกข์มาก สุขทุกข์อยู่ที่ใจ

  อ.กำพลท่านกล่าวว่าจิตใจท่านออกจากคุกของผู้พิการแล้ว ลองอ่านดูครับ “คิดมาก..ก็ทุกข์มาก  สุขทุกข์อยู่ที่ใจ “                         สนทนาธรรมโดย  อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม         กราบนมัสการ หลวงพ่อคำเขียน และพระคุณเจ้าที่เคารพอย่างสูง และสวัสดีญาติธรรม ผู้ที่มีจิตใจฝักใฝ่ในธรรม ผู้มีเกียรติที่เคารพทุกท่าน         วันนี้ผมรู้สึกยินดีมาก ที่ได้มีโอกาสมาทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ให้พระธรรม ก็ตั้งใจว่าจะมาพูดในสิ่งที่เป็นสาระเป็นประโยชน์กับท่านผู้ฟัง โดยปกติแล้ว ผมไม่ค่อยจะมีโอกาสจะมาในลักษณะเช่นนี้ คนพิการไม่ค่อยได้ออกไปไหน มักจะอยู่ในบ้าน จึงไม่ค่อยมีความรู้อะไรกว้างขวางนัก ส่วนใหญ่ก็จะรู้แต่เรื่องร่างกาย เรื่องจิต เรื่องใจ ของตัวเองเสียเป็นส่วนมาก เพราะคอยเฝ้าดูสิ่งนี้อยู่ และที่ผมมาวันนี้ ก็ตั้งใจไว้ว่าจะมาพูดธรรมะในลักษณะที่มาเล่าสู่กันฟัง  ขอให้ท่านผู้ฟังทุกท่าน จงมีความสุขในการฟังในวันนี้         หลายท่านก็อยากจะทราบว่า ทำไมผมจึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ มันมีเหตุ มีเหตุความเป็นมา ก็จำเป็นที่จะต้องเล่าเรื่อง ย้อนรอยไปในอดีตสักเล็กน้อยเพื่อประกอบกับการพูดธรรมะ สู่กันฟังในวันนี้ คือเมื่อประมาณ 22 ปีที่ผ่านมา ผมเคยรับราชการเป็นอาจารย์สอนอยู่ในวิทยาลัยพละศึกษา จังหวัดอ่างทอง ผมรับราชการได้แค่ 3 ปี ก็โชคไม่ดีแล้ว ประสบอุบัติเหตุในขณะที่กำลังสอนว่ายน้ำอยู่ คือผมได้กระโดดน้ำลงไปในสระว่ายน้ำ ในท่าที่พุ่งหลาวลงไป มันเกิดพลาดท่า เพราะมีความประมาทอยู่ด้วย พุ่งแรงไปหน่อย ศีรษะไปกระแทกถึงพื้นก้นสระ ทำให้เป็นอัมพาตไปทั้งร่างกาย จมไปที่ก้นสระ […]

ตอนที่ 96 สมาธิพิชิตความปวด

สวัสดีครับ พอดีทำงานกับผู้ป่วยทุกโรค รู้สึกโรค AS สาเหตุจะซับซ้อนมากกว่า มะเร็ง มะเร็ง คนจะเป็นมากกว่า ลองเทียบเคียงได้ครับ สมาธิ พิชิตความปวด คุณอรทัย ชัยฐานียชาติ เคยป่วยเป็นมะเร็งเต้านม และได้รับการผ่าตัดแล้วเธอเป็นผู้ที่แพ้ยาทุกชนิดในการผ่าตัด เธอจึงเจ็บปวดจากแผลผ่าตัดมาก แต่เธอใช้วิธีทำสมาธิเพื่อระงับความปวด และได้ผลอาการปวดลดลง ตามที่ “หมอชาวบ้าน” เคยสัมภาษณ์เรื่องราวของเธอลงในคอลัมน์เปลี่ยนชีวิต ฉบับ ๒๑๕ มีนาคม ๒๕๔๐ แล้วนั้น บทความต่อไปนี้คุณอรทัยได้บันทึกประสบการณ์ในการปฏิบัติตนของเธอขณะเจ็บป่วย เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันเผื่อว่าผู้อ่าน “หมอชาวบ้าน” สนใจจะนำไปปฏิบัติบ้าง มะเร็ง กายมะเร็งใจ หลังจากดิฉันได้ผ่าตัดเต้านม เนื่องจากเนื้องอกเป็นมะเร็งจึงทำให้ใคร่รู้ในเรื่องมะเร็งมากขึ้น นอกจากจะสอบถามจากคุณหมอรักษาแล้วยังได้หาหนังสือเกี่ยวกับโรคมะเร็งและ อาหารต้านมะเร็งมาอ่านหลายเล่มก็พอจะสรุปคร่าวๆ ได้ดังนี้ โรค มะเร็ง เกิดขึ้นจากสารพิษหรือสารก่อมะเร็ง เข้าสู่ร่างกายมากเกินกว่าที่ร่างกายจะขับออกมาได้หมด ดังนั้นร่างกายจึงพยายามกำจัดสารพิษให้อยู่เป็นที่ โดยสะสมในรูปของเนื้องอกหรือมะเร็ง เนื้องอกหรือมะเร็งเปรียบเสมือนโรงเก็บสารพิษจากกระแสเลือดนั่นเอง การก่อตัวของมะเร็งนั้นจะใช้เวลานานประมาณ ๑๐ – ๓๐ ปี ซึ่งในช่วงเวลาอันยาวนานนี้เซลล์ปกติจะค่อยๆ เปลี่ยนรูปไปทีละน้อยในทางเสื่อม ร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยเซลล์จำนวน ๕๐,๐๐๐ ล้านเซลล์ และในจำนวนนี้ […]

ตอนที่ 95 อบรมธรรมะกับโยคะสำหรับผู้ป่วย

ตอนที่ 95 ไปอบรมโครงการธรรมะและโยคะเพื่อผู้ป่วย ครั้งที่ ๑๑ ที่ โรงแรมสุนันทา มาได้ความรู้มาก การวางใจรับมือความเจ็บป่วย สำหรับผู้ป่วย 1.มองความเจ็บป่วยด้วยเมตตาธรรม 2.ยอมรับความป่วยง่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต 3.มีจิตอยู่กับปัจจุบันขณะ 4 แยกเวทนาทางกายและใจออกจากกัน 5.ไม่ใส่ใจความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นทางกาย 6.ทำกิจกรรมที่ชอบ ถอนออกจากความคิด 7.มีอิทธิบาท 4 ในการดำรงชีวิต ได้แก่ มีใจรัก พากเพียรทำ เอาจิตฝักใฝ่ ใช้ปัญญาสอบสวน การวางใจรับมือความเจ็บป่วย สำหรับผู้ดูแลผู้ป่วย ก็สำคัญเนื่องจามมีความทุกข์มาก ต้องเสียสละ รับรู้ความทุกข์ของผู้ป่วย และการหาเลี้ยงตัวเอง 1.มีเมตตาและเข้มแข็งของจิตใจ ยอมรับความเป็นไปของชีวิตเกิดแก่เจ็บตาย พลัดพราก เป็นสิ่งธรรมดา 5 อย่างในชีวิต 2.ให้การสัมผัสอย่างอ่อนโยนและอบอุ่น จนผู้ป่วยรู้สึกได้ 3.เข้าใจในความรู้สึกเดียวกันกับผู้ป่วย ด้วยการฟังอย่างลึกซึ้ง 4.ถ่อมตน เคารพผู้ป่วย เคารพตนเอง มองผู้ป่วยเป็นครูที่ดี อย่ามองว่าเราเป็นผู้มีบุญคุณ กับผู้ป่วย แต่ให้มองว่าผู้ป่วยเป็นครูเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาจิตวิญญาณของเรา 5. เอื้อให้ผู้ป่วยมีความไว้วางใจ ศรัทธา ในผู้ดูแล 6.ช่วยให้ผู้ป่วยผ่อนคลาย ปล่อยวาง […]

ตอนที่่ 94 อาหารร้ายทำลายระบบย่อยและขับถ่าย

อาหารร้ายทำลายระบบย่อยและขับถ่าย จากนิตยสารชีวจิต 16 ธันวาคม 2552     นายแพทย์ริชาร์เอ พาสเวอร์เตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พบว่าวัยรุ่นที่รับประทานอาหารขยะเป็นประจำ ส่งผลให้เกิดโรคที่คาดไม่ถึงในระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายตามมา เช่น     ท้องอืด วัฒนธรรมการกินอาหารจานด่วนของวัยรุ่นที่เต็มไปด้วย ความรีบเร่ง รวดเร็ว ทำให้คนส่วนใหญ่รีบกินจนเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด ส่งผลให้อาหารเข้าไปอัดแน่นอยู่ในกระเพราะอาหาร น้ำย่อยที่ปล่อยออกมาไม่เพียงพอ   กระเพราะอาหารจึงใช้เวลาในการย่อยนาน ขึ้นประกอบกับการดื่มน้ำอัดลมเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร จึงส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดได้     ท้องผูก เนื่องจากอาหารจานด่วนเป็นอาหารที่มีกากใยน้อยอุดมไปด้วยแป้งขัดขาว ไขมันเลว และน้ำตาล เมื่ออาหรประเภทนี้เข้าไปสู่ระบบย่อยอาหารจึงใช้เวลาในการดูดซึมมากกว่า อาหารทั่วไป และเมื่อเคลื่อนตัวสู่ระบบขับถ่ายก็จะทำให้เกิดอาการท้องผูก เนื่องจากไม่มีกากอาหารเป็นตัวนำพาของเสียออกสู่ร่างกาย     นายแพทย์แอนดรูว์ไวส์ แนะนำว่า การกินอาหารจานด่วนมีส่วนทำให้ เกิดอาการวัยทองเร็วกว่ากำหนด “การกินอาหารจานด่วนซึ่งเต็มไปด้วยสารพิษ หรือท็อกซินติดต่อกันเป็นประจำ จะส่งผลให้เครียดจัดมีโอกาสในการติดเชื้อมากขึ้น ฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปรกติ จนไปทำลายการทำงานของสมอง ส่งผลให้ผู้หญิงวัยกลางคนรู้สึกเหนื่อยขี้หงุดหงิดและเจ้าอารมณ์กว่าคนวัยเดียวกัน     มีข้อแนะนำในการกินสำหรับผู้ที่ต้องการมีสุขภาพดี และอยากให้ระบบย่อยอาหารมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นดังนี้     อาหารญี่ปุ่นตำรับดั้งเดิม ประกอบด้วยปลาเป็นหลัก พืช ผักธรรมชาติ หลากหลาย ทั้งผักสดและผักสุก แถมได้กินถั่วและดื่มชาเขียว ทุกมื้อ เป็นอาหารที่ย่อยง่าย ใช้เวลาในกระบวนการเผาผลาญไม่นาน ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหรไปใช้ได้ในทันที […]

ตอนที่ 93 ออกกำลังกายแบบแอโรบิคหรือเต้นแอโรบิค

การออกกำลังขั้นต้นที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งผู้เขียนก็ทำอยู่สม่ำเสมอ ตอนที่ 93 ออกกำลังกายแบบแอโรบิคหรือเต้นแอโรบิค เวลาไปบรรยายเรื่องการออกกำลังกายแบบสายกลาง มักจะมีคำถามว่า การออกกำลังแบบแอโรบิค คือการเต้นแอโรบิคใช่ใหม คำตอบ คือ ใช่ และไม่ใช่ อย่าเพิ่งสงสัย อ่านคำอธิบายข้างล่างนี้ก่อน การออกกำลังกายแบบแอโรบิค คืออะไร คำตอบคือการออกกำลังกายชนิดไหนก็ได้ที่ใช้พลังงานชนิดแอโรบิค หรือมีการใช้ออกซิเจนในการสร้างพลังงานให้กล้ามเนื้อที่ออกกำลังนั้น ขอเปรียบเทียบตัวคนเราเป็นรถยนต์ ซึ่งมีกล้ามเนื้อแขนขา เป็นเครื่องจักรที่จะทำให้คน เคลื่อนไหวได้ รถยนต์เครื่องเบนซินต้องใช้น้ำมันเบนซินเป็นพลังงาน คนเครื่องกล้ามเนื้อแขนขาต้องใช้น้ำมันคนคือน้ำมัน ATP(adenosine-Tri-Phosphate) เป็นพลังงาน การออกกำลังกายทุกชนิด กล้ามเนื้อจะเริ่มใช้พลังงานหรือน้ำมันคนที่มีเก็บไว้ที่กล้ามเนื้อก่อน แต่มีปริมาณน้อยมาก เพียง 2 – 3 วินาที น้ำมันคนก็จะหมดไป แต่ต่อมากล้ามเนื้อยังคงทำงานต่อไปเพราะในใยกล้ามเนื้อมีโรงงานกลั่นน้ำมันตน (mitochondria) สามารถกลั่นสารอาหารที่กักเก็บไว้ในกล้ามเนื้อ เช่น กรัยโคเจนหรือฟอสฟาเจนเป็นต้น ให้เป็นน้ำมันคนซึ่งการกลั่นน้ำมันช่วงนี้ไม่มีการใช้ออกซิเจนในการกลั่นน้ามันเลย เรียกว่า Anaerobic energy พลังงานที่ไม่ใช่แอโรบิค กล้ามเนื้อออกแรงต่อไปเรื่อยๆ ประมาร 3 นาที สารอาหารที่เก็บไว้ในใยกล้ามเนื้อจะหมดไป แต่กล้ามเนื้อก็ยังออกแรงต่อไปได้อีก ถามว่าเอาน้ำมันที่ไหนมาใช้ คำตอบสุดท้ายก็คือ เอาน้ำตาล […]

ตอนที่ 92 ความชราจะบออกลา

ผมลองอ่านบทความของวารสารชีวจิต 16 ธันวาคมปี 51 ซึ่งใช้ได้น่าสนใจ โดยคุณหมอนั้นท่านออกรายการช่อง 9 บ่อยๆรายการสุขภาพ ช่วง 8.00-9.00 ด้วยเนื้อเรื่อง ความชราจะบอกลา นพ.กฤษดา ศิรามพุช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ อาจารย์พิเศษสอนนิสิตปริญญาเอกจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ก็ออกมาให้ข่าวว่า การเข้าสู่ภาวะเสื่อมสังขารก่อนวัยอันควรกลาย เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะนำไปสู่สังคมที่มี ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น มีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า ส่งผลต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ “สาเหตุของภาวะเสื่อมสังขารแบ่งออกเป็นสองปัจจัย คือ หนึ่ง ปัจจัยภายในที่เกิดการสะสมของความเครียด ยิ่งขณะนี้ปัญหาการเมืองรุมเร้าทั้งภายในและภายนอกประเทศ ยิ่งทำให้คนไทยมีภาวะเครียดสูงขึ้น การก้าวสู่ภาวะแก่ก่อนวัย จึงไม่ใช่เรื่องแปลก นอกจากนี้ปัญหาความเครียดจะพบมาก ในคนเมืองหลวง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นเมือง ที่มีแต่การแข่งขัน “ และสอง ปัจจัยภายนอก สภาพแวดล้อม มลภาวะ เป็นพิษต่างๆ รวมทั้งพฤติกรรมการบริโภคที่ส่วนใหญ่นิยม บริโภคอาหารฟาสต์ฟู้ด โดยเฉพาะอาหาจำพวกแป้ง น้ำตาล กาแฟ จะมีสารที่ทำให้แก่เร็ว “พฤติกรรมการนอนหลับยังทำให้คนไทยแก่เร็วด้วย เนื่องจากคนส่วนใหญ่นิยมนอนช่วงเวลาตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป ทั้งๆที่เวลาที่ควรหลับพักผ่อนมากที่สุดคือ ช่วงที่สี่ทุ่ม และตื่นนอนตอนหกโมงเช้า เพราะเป็นช่วงที่โกร๊ธฮอร์โมน (Growth […]

ตอนที่ 91นาฬิกาชีวิต

ขอบคุณรูปจาก http://www.kasetporpeangclub.com ตอนที่ 91นาฬิกาชีวิต มีเพื่อนที่เห็นการใช้ชีวิตของเราแบบน่าเป็นห่วง ส่งเรื่องราวนี้มาให้อ่าน เพื่อปรับปรุงเวลาในการใช้ชีวิตให้อายุยืนยาว และมีสุขภาพตามวัย จึงอดไม่ได้ที่จะต้องนำมาเล่าต่อค่ะ..เรื่องมีอยู่ว่า.. การแพทย์ตะวันออกถือว่า   กลางวันและกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์อย่างแยกไม่ออก  โดยมองลึกลงไปอีกว่า  ช่วงเวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้นภายในร่างกายของมนุษย์ ยังมีการไหลเวียนของพลังชีวิตที่ผ่านอวัยวะภายในของร่างกาย ซึ่งประกอบด้วย อวัยวะตันและอวัยวะกลวง อวัยวะตัน หมายถึง หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ ไต อวัยวะกลวง หมายถึง  กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ ระบบความร้อนของร่างกาย (ชานเจียว) การ ไหลเวียนของพลังชีวิต (ลมปราณ) ที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลาสองชั่วโมง   ทั้งหมดมี 12 อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง คือ หนึ่งวัน เรียกว่า “นาฬิกาชีวิต” 1.00-3.00 น.  เป็นช่วงเวลาของตับ  ควรนอนหลับพักผ่อนถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำใน ช่วงเวลานี้  ตับจะหลั่งสารมีราโทนิน  (meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรคทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่งมีราโทนินประจำแล้ว  ยังหลั่งสารเอนโดร ฟิน  (endorphin) ออกมาด้วยจึงไม่ควรกินอาหาร เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว   […]

1 4 5 6 7 8 14